ยินดีต้อนรับทุกท่าน สู่เส้นทางธุรกิจ BY KICHPRAPAN BUSINESS TEL : 083-766-3882
 เข้าสู่ระบบ - สมัครสมาชิก  |  
 ตะกร้าสินค้า (0)
ค้นหาสินค้าในเว็บ
ประเภทสินค้า
สินค้าแนะนำ
สินค้ายอดนิยม
สินค้ามาใหม่ล่าสุด
สินค้ามาใหม่ล่าสุด
กิฟฟารีนอาหารเสริม
กิฟฟารีนอาหารเสริม
กิฟฟารีนอาหารเสริม
 

ลูทีน ซีแซนทีน อาหารบำรุง สายตา

 


อาหารสุขภาพ บำรุงตาที่มีงานวิจัยเป็นที่ยอมรับทางการแพทย์ เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้สายตามาก เพ่งจอคอมพิวเตอร์ ขับรถกลางคืน
สาร ลูทีนและซีแซนทีน เหมาะกับผู้ใช้สายตามาก ผู้สูงอายุ ผู้ที่ทำงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ หรืออยู่กับแสงสว่างจ้า กลางแดด  ผู้ที่ต้องขับรถกลางคืนบ่อย ๆ ผู้ที่โดนแฟลช  ดูทีวีมากและนาน  ผู้ป่วยเบาหวาน โรคหัวใจ มะเร็งเต้านม
ประโยชน์ โดยสรุปของสาร ลูทีนและซีแซนทีนที่มีงานวิจัยมีดังนี้คือ    
 ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคต้อกระจก และโรคจอตาเสื่อม ( AMD )  มะเร็งเต้านมและโรคหลอดเลือดหัวใจ
 รายละเอียดดังนี้
ลูทีน (Lutein) และซีแซนทีน (Zeaxanthin) เป็นสารธรรมชาติจัดอยุ่ในกลุ่มของสารรงควัตถุที่มีสีในตระกูลของสาร แคโรทีนอยด์  แต่มีความแตกต่างจากคาโลทีนอยด์ชนิดอื่นตรงที่จะไม่เปลี่ยนไปเป็นวิตามิน เอ  ลูทีน  และซีแซนทีน มีในเนื้อเยื่อของร่างกายมนุษย์หลายจุดด้วยกัน ส่วนของร่างกายที่มีสาร ลูทีน  และซีแซนทีน ได้แก่ในลูกตา คือ ที่เลนส์ตา และจอรับภาพของตา คือเรติน่า ตรงตำแหน่ง


จุด รับภาพของลูกตา ( Macula ) ซึ่งเป็นตำแหน่งที่สำคัญที่สุดในจอตาเรติน่าเพราะเป็นจดุที่รูปภาพและแสง ส่วนมากจะมาตกบริเวณนี้ เป็นส่วนที่จอตารับภาพได้ชัดที่สุดนั่นเอง ในธรรมชาติแล้วแม้จะมีแคโรทีนอยด์มากกว่า 600 ชนิด แต่มีเพียง 20 ชนิดเท่านั้นที่พบในมนุษย์  และมีเพียง 2 ชนิดเท่านั้นที่พบในจุดรับภาพของลูกตา ( Macula ) คือ ลูทีน ( Lutein ) และ ซีแซนทีน ( Zeaxanthin )    ในจอตาทั้งคู่ทำหน้าที่
     : ช่วยกรองหรือป้องกันรังสีจากแสงแดดที่เป็นอันตรายต่อดวงตา 
     : ช่วยปกป้องเซลล์ของจอประสาทตาไม่ให้ถูกทำลายโดยการลดอนุมูลอิสระและกรองแสงสีน้ำเงินที่จะทำลายดวงตา
     นอกจากนี้ ลูทีน  และซีแซนทีน ยังพบได้ใน ตับ ตับอ่อน ไต ต่อมหมวกไต และเต้านมแต่ก็เป็นสารที่ร่างกายสังเคราะห์เองไม่ได้ ร่างกายของเราจะได้รับสารนี้ก็ต่อเมื่อรับประทานพืชผักที่มีสารนี้เท่านั้น แต่สารซีแซนทีนนอกจากจะได้จากอาหารส่วนหนึ่งแล้ว ร่างกายสามารถเปลี่ยนสารลูทีนในตาไปเป็นสารซีแซนทินได้  พืชผักที่มีสาร ลูทีน  และซีแซนทีน โดยมากมักจะเป็นผัก ผลไม้ ที่มีสีเหลืองและสีเขียวเข้ม เช่น ข้าวโพด ผักกาด ผักปวยเล้ง คะน้า ผักโขม  
     ลูทีนและซีแซนทีน มีประโยชน์ในโรคหลายชนิดด้วยกัน ที่สำคัญคือ โรคต้อกระจก และโรคโรคจุดรับภาพเสื่อม โรคหัวใจและหลอดเลือด และช่วยลดอุบิตการณ์ในโรคมะเร็ง บางชนิด
โรคต้อกระจก ( Cataracts )
คือภาวะที่กระจกตา หรือเลนส์ตาขุ่นทำให้แสงไม่สามารถผ่านเข้าไปในตาได้ตามปกติ ตาจะมัวมากน้อยขึ้นอยู่กับต้อกระจกขุ่นมากน้อยแค่ไหน ต้อกระจกไม่ใช่โรคติดต่อ แต่อาจเป็นพร้อมกันทั้งสองตา ต้อกระจกจะค่อย ๆ ขุ่นไปอย่างช้า ๆ ใช้เวลาเป็นปี ๆ ต้อกระจกไม่ใช่โรคมะเร็ง ต้อกระจกสามารถรักษาได้ด้วยการผ่าตัด การผ่าตัดลอกต้อกระจกขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของแต่ละคนโดยจักษุแพทย์จะเป็น ผู้ให้คำแนะนำ และเลือกวิธีการผ่าตัดให้ได้ดีที่สุด
สาเหตุหลัก คือ การเปลี่ยนแปลงของส่วนประกอบของเลนส์ตา ทำให้เลนส์ขุ่น และนิวเคลียสแข็งขึ้น พบการเปลี่ยนแปลงนี้ในผู้สูงอายุ พบบ่อยตั้งแต่อายุ 50 ปีขึ้นไป สาเหตุอื่น เช่น จากกรรมพันธุ์ จากอุบัติเหตุตา จากการติดเชื้อ จากการติดเชื้อในครรภ์มารดา ถ้าพบตั้งแต่เกิดก็เรียกว่า “ต้อกระจกแต่กำเนิด” เช่นในเด็กที่เกิดหลังจากมารดาติดหัดเยอรมันระหว่างตั้งครรภ์ ในคนที่เป็นเบาหวานพบว่าเป็นต้อกระจกเร็วกว่าคนธรรมดาอย่างมาก  ตาปกติเลนส์ตาจะใส และปล่อยให้แสงผ่านไปได้ แต่เมื่อเป็นต้อกระจก  เลนส์ตาจะขุ่นแสงผ่านเข้าไม่ได้ เมื่อเริ่มเป็นต้อกระจก ผู้ป่วยจะรู้สึกตาข้างนั้นมัวคล้ายมองผ่านหมอก อาจมองเห็นภาพซ้อน ขับรถตอนกลางคืนลำบากขึ้น เมื่อต้อกระจกเป็นมากขึ้น จะสามารถสังเกตเห็นต้อสีขาวที่ม่านตาได้
     การตรวจวินิจฉัย เมื่อมีอาการตามัวควรไปรับการตรวจจากจักษุแพทย์ ต้อกระจกจะทำให้สายตามัวไปทีละน้อย เมื่อต้อสุกจะมองเห็นแต่มือไหว ๆ หรือเห็นเพียงแสงไฟเท่านั้น
โรคจุดรับภาพเสื่อม( Age-Related Macula Degenerationหรือ AMD ) 
เกิดจากการเสื่อมของจุดรับภาพ (Macular) ซึ่งเป็นกลางจอตา (Retina) ทำให้การมองเห็นภาพเบลอ บิดเบี้ยวบางครั้งอาจรุนแรงขนาดเห็นจุดดำมาบังภาพอยู่ตลอดเวลาอาจมีสาเหตุมา จาก
- ปัจจัยทางธรรมชาติที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เช่น  การเสื่อมสภาพของดวงตาเมื่ออายุเพิ่มขึ้น หรือการถ่ายทอดผ่านทางกรรมพันธุ์จากบรรพบุรุษ
- ปัจจัยแวดล้อมต่าง ๆ เช่น
          : การเผชิญแสงแดดจ้า   ทำให้ดวงตาได้รับรังสี UV  โดยตรง
          :  การมีพฤติกรรมชอบบริโภคอาหารที่มีไขมันและคอเรสเตอรอลสูง เพราะอาหารประเภทนี้อุดมไปด้วยอนุมูลอิสระที่จะไปทำลายเนื้อเยื่อในร่างกาย ให้เสื่อมสภาพได้  รวมถึงการขาดสารอาหารบางชนิด
          : การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์สูงเนื่องจากเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์จะเป็นตัวเร่งให้เกิดความเสื่อมของเซลล์ในร่างกาย
          : การสูบบุหรี่ เพราะควันในบุหรี่มากไปด้วยอนุมูลอิสระที่จะไปทำลายเซลล์ในตา
- ปัจจัยที่เกิดจากอาการเจ็บป่วยของโรคอื่น เช่นโรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง และโรคเบาหวาน ก็มีส่วนเนื่องจากโลหิดในตาเสื่อมลง จึงส่งผลให้หลอดเลือดฝอยของจอประสาทตารั่วซึมหรือแตกง่าย
ลูทีนและซีแซนทีน กับโรคต้อกระจก
กลไกของการที่ ลูทีน และซีแซนทีน ช่วยลดหรือป้องกัน หรือชะลอการเกิดต้อกระจกได้นั้นเป็นเพราะ เป็นคุณภาพของสารเองที่จะลดกลไกการเกิดความเสื่อม ของโรคต้อกระจกโดยตรง ( อ้างอิงที่  1)  นอกจากนี้ก็ยังพบว่าทั้ง ลูทีน  และซีแซนทีน ต่างก็มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสสระ ซึ่งสามารถลดความเสี่ยงในโรคทึ่เกิดจากการมีสารอนุมูลอิสสระสูงได้ ( อ้างอิงที่ 2,3)  มีการค้นพบที่ชัดเจนว่า การได้รับแสงเป็นประจำได้ก่อให้เกิดการสร้างอนุมูลอิสสระใน กระจกตาและจอตาได้จริง มีผลทำให้เกิดออกซิเดชั่นของโปรตีนและไขมันในเลนส์ตา ทำให้ไปในทิศทางของความเสื่อมของเลนส์ตาและก่อให้เกิดต้อกระจกในผู้สูงอายุ ได้  ( อ้างอิงที่ 4)  จึงเป็นเหตุผลที่ชัดเจนว่าทำไมสารลูทีน  และซีแซนทีน จึงสามารถลดความเสี่ยงของโรคต้อกระจกและโรคของจอตาคือโรค  โรคจุดรับภาพเสื่อม ซึ่งมีกลไกการเกิดโรคจากความเสื่อมและอนุมูลอิสสระได้เช่นกัน  ในเรื่องของต้อกระจก  ได้มีการวิจัยวัดความขุ่นของเลนส์ตา ระดับของลูทีน  และซีแซนทีน ในกระแสเลือด ในกลุ่มผู้สูงอายุต่างๆ พบว่า การมีระดับ ของลูทีน  และซีแซนทีน ในกระแสเลือดสูงจะผกผันกับความขุ่นของเลนส์ตาในผู้สูงอายุ เป็นการวิจัยของจักษุแพทย์ และผู้วิจัยสรุปว่า  ลูทีน  และซีแซนทีน น่าจะลดการเกิดความเสื่อมของเลนส์ตาในผู้สูงอายุได้จริง  ( อ้างอิง ที่ 5)   ยังมีการวิจัยว่าการรับประทานลูทีน ในปริมาณสูง เพิ่มความสามารถในการมองเห็น ของผู้ป่วยที่เป็นต้อกระจกไปแล้ว การวิจัยนี้ เป็นการวิจัยที่ดีมาก และทำการทดลองเป็นเวลานานถึงสองปีทีเดียว  ( อ้างอิง ที่ 6 ) การวิจัยที่ยิ่งใหญ่ถึงคุณประโยชน์ของลูทีน และซีแซนทีน ทำในอเมริกา สองงานวิจัย งานวิจัยแรกทำที่ Harvard School of Public Health, Boston ในผู้ชาย 36,644 คน ที่ได้รับอาหารเสริมและวิตามินต่างๆ พบว่ากลุ่มที่ได้รับอาหารเสริม เป็น  ลูทีน และซีแซนทีน จะลดความเสี่ยงของโรคต้อกระจกถึง 19%  ( อ้างอิงที่ 7 ) และอีกงานวิจัยทำที่ University of Massachusetts ทำในสุภาพสตรี ถึง  50, 461 คน เป็นการวิจัยทำนองเดียวกัน แต่ทำในผู้หญิงเท่านั้นพบว่า ลูทีน  และซีแซนทีน จะลดความเสี่ยงของโรคต้อกระจกถึง 22%   ( อ้างอิงที่ 8 )นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยที่ทำที่ University of Wisconsin-Madison Medical School  ในผู้สูงอายุ 43-84 ปี จำนวน1,354 คน พบว่า ลดอุบัติการณ์ของ ต้อกระจกที่เกิดตรงกลางเลนส์  ( nuclear cataracts ) ได้ประมาณ 50%  ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงมาก  ( อ้างอิงที่ 9 ) เนื่องจากมีงานวิจัยที่ชัดเจนมากมายถึงขนาดนี้จึงเป็นที่ยอมรับว่า ลูทีน  และซีแซนทีนลดอุบัติการณ์โรคต้อกระจกในผู้สูงอายุได้จริง
ลูทีน และซีแซนทีน กับโรคจุดรับจอภาพเสื่อม
นอกจาก ลูทีนและซีแซนทีน จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต้อกระจกแล้ว  ยังพบว่ามีประโยชน์ในโรคโรคจุดรับภาพเสื่อม ซึ่งมีหลายๆการศึกษาสนับสนุนข้อมูลดังกล่าว โดยพบว่า ถ้าปริมาณ Lutein & Zeaxanthin ในลูกตาลดน้อยลง จะพบความเสี่ยงมากขึ้นในเป็นโรคโรคจุดรับภาพเสื่อม ( อ้างอิงที่ 10 ) และความเสี่ยงในการเป็นโรคโรคจุดรับภาพเสื่อม จะลดลง หากมีปริมาณ Lลูทีนและซีแซนทีน ในเลือดสูงขึ้น ( อ้างอิงที่ 11,12 ) แสดงให้เห็นว่า การบริโภค อาหารที่มีลูทีนและซีแซนทีน สามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคได้
ลูทีน กับมะเร็งเต้านม
ในการวิจัยของพยาบาล Nurse’s Health Study, Zhang และคณะ .  พบว่ามีคนที่บริโภคอาหารที่มี ลูทีนและซีแซนทีน  ปริมาณมากอาจลดอุบัติการณ์ของโรคมะเร็งเต้านมในสตรีช่วงหมดประจำเดือน ได้อย่างมีนัยสำคัญ แม้ว่า เปอร์เซนต์การลดอุบัติกาณ์จะไม่มากนัก แต่ก็น่าสนใจอย่างยิ่ง ( อ้างอิงที่ 13) ในทำนองที่สอดคล้องกัน ก็มีผู้วิจัยพบว่า ลูทีน ลดอุบัติการณ์มะเร็งเต้านมได้จริงในสตรีกลุ่มที่มีความเสี่ยงคือมีประวัติ ครอบครัวเป็นมะเร็งเต้านม  (อ้างอิงที่ 14)  ที่เป็นเช่นนี้อธิบายได้จากกลไกของตัว ลูทีนเอง เพราะพบว่า สาร ลูทีนมีคุณสมบัติยังยั้งการก่อมะเร็งได้ด้วยกลไกหลายชนิด เช่น มีผลต่อการเกิด mutagens 1-nitro pyrene and aflatoxin B1 ( อ้างอิงที่ 15,16)  และมีผลต่อยีนที่มีผลต่อ T-cell transformations (อ้างอิงที่ 17)
ลูทีน ซีแซนทีน กับโรคหลอดเลือดหัวใจ
โรคหลอดเลือดหัวใจ สาเหตุหลักมักเกิดจากการที่เส้นเลือดมีการหนาตัวตีบแคบลง จากการมีตะกอน (ทางการแพทย์เรียกว่า พล๊าค ( Plaque ) ในผนังเส้นเลือด ทำให้เส้นเลือดตีบแคบทั่วไป เพียงแต่บริเวณที่สำคัญที่ต้องการเลือดมากที่สุดตลอดเวลาคืออวัยวะที่ไม่มี การหยุดพัก คือหัวใจ เป็นจุดที่เกิดปัญหาได้ก่อน  ทำให้มีการขาดเลือดไปเลี้ยงหัวใจ ผู้ป่วยมักมีอาการเจ็บแน่นหน้าอก อาจมีหัวใจเต้นผิดจังหวะ หรือกล้ามเนื้อหัวใจตายจนหัวใจวาย หรือหัวใจหยุดเต้นและถึงแก่กรรมโดยฉับพลันได้ บางรายอาการทางหัวใจไม่มาก แต่เมื้อหัวใจเต้นผิดจังหวะนานๆ ก็อาจจะทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ มีอัมพาตแขนขาอ่อนแรง หรืออัมพาตครึ่งซีก ตามมาได้  สาเหตุที่สำคัญที่ก่อให้เกิดพล๊าคในผนังเส้นเลือดคือภาวะไขมันในเลือดสูงและ มีสารอนุมูลอิสสระในผนังเส้นเลือด ก่อให้เกิดการแทรกซึมของไขมันโคเลสเตอรอลลงไปสะสมในผนังเส้นเลือดทำให้เกิด พล๊าคและมีการตีบตันได้ งานวิจัยพบว่า ลูทีน สามารถลดกลไกการเกิดพล๊าคดังกล่าวได้  ( อ้างอิงที่ 18 ) พบว่าในผู้ที่บริโภคอาหารที่มีลูทีนสูงจะลดอัตราการเป็นโรคหัวใจขาดเลือด และโรคหลอดเลือดตีบในสมองอย่างมีนัยสำคัญ   ( อ้างอิงที่ 19,20)
กล่าวโดยสรุป ลูทีนและซีแซนทีน จึงเป็นสารอาหารธรรมชาติที่มีคุณประโยชน์เป็นที่เชื่อถือได้ ในหลายโรคด้วยกัน มีความปลอดภัย และเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้บริโภค

 
กิฟฟารีนอาหารเสริม
กิฟฟารีนอาหารเสริม
กิฟฟารีนอาหารเสริม
 
 

สารสกัดองุ่น

 

อาหารเสริมที่มีฤทธิ์ ต้านอนุมูลอิสสระที่แรงที่สุด ได้ชื่อว่าเป็น Super antioxidant
สารสกัดจากเมล็ดองุ่น เป็นสารประเภท ไบโอฟลาโวนอยด์   มีสารที่สำคัญหลายตัว เป็น กลุ่มของโปรแอนโทรไซยานิดิน (  Proanthocyanidin  หรือมีอีกชื่อว่า  พีซีโอ (  PCO:  Procyanidolic Oligomers  ) มีประสิทธิภาพต้านอนุมูลอิสระแรงที่สุด จนได้ชื่อว่า ซุปเปอร์แอนตี้ออกซิแดน สาร พีซีโอตัวนี้มีมากที่สุดในเมล็ดองุ่น และใน เบอร์เบอรี่ เชอรี่ พลัม ถั่วและผักบางชนิด ประวัติการค้นพบสารสกัดจากเมล็ดองุ่น มาจาก การค้นพบทางการแพทย์ที่พบว่าคนที่ดื่มไวน์แดงเป็นประจำจะมีโอกาสเป็นโรค หัวใจ และมีอัตราตายจากโรคหัวใจ น้อยกว่าผู้อื่น  ในครั้งแรกคิดว่าเป็นผลจากแอลกอฮอล์ ต่อมาจึงพบว่าส่วนใหญ่เป็นผลจากสารสกัดในเมล็ดองุ่น . ( อ้างอิงที่ 1 )
ประโยชน์
1. ลดการสะสมของโคเลสเตอรอลต่อผนังเส้นเลือด ทำให้เส้นเลือด ไม่ตีบตัน ลดการอุดตันของเส้นเลือด ( อ้างอิงที่ 2,4)
2. มีผลต่อกล้ามเนื้อหัวใจ  โดยทำให้กล้ามเนื้อหัวใจแข็งแรง และทนทานต่อภาวะการขาดเลือด และลดการเต้นผิดจังหวะ มีผลทำให้ลดอัตราตายจากโรคหัวใจ ( อ้างอิงที่ 3 ) 
3. มีผลยับยั้งเซลล์มะเร็งหลายชนิด เช่น ปอด กระเพาะอาหาร มะเร็งต่อมลูกหมาก  และมะเร็งเต้านมในคน ( อ้างอิงที่4- 6 ) 

4. สามารถป้องกันเซลล์มะเร็งในช่องปาก จมูก หลอดอาหารในกลุ่มประชากรที่เคี้ยวใบชา ซึ่ง เสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งชนิดน
ี้ ( อ้างอิงที่ 7) 
     การทานผักและผลไม้ที่มี เบต้าคาโรทีน วิตามิน ซี วิตามิน อี สูงสามารถที่จะลดอุบัติการการเป็นมะเร็งเต้านม และมะเร็งปอด  และยังลด อุบัติการของโรคหัวใจขาดเลือด ทั้งหมดนี้มีงานวิจัยสนับสนุนในประชากรนับหมื่นคน ( อ้างอิงที่  8-10 12-13,16 )
 
    กล่าวโดยสรุปแล้วสารต้านอนุมูลอิสระ มีผลดีต่อร่างกาย เป็นสารธรรมชาติที่ช่วยชะลอการแก่ และลดมะเร็งต่าง ๆ และลดอุบัติการโรคหัวใจขาดเลือดได้จริง  มีมากในผักและผลไม้หลายชนิด ซึ่งอาจจะหารับประทานได้ไม่ยาก

 
กิฟฟารีนอาหารเสริม
กิฟฟารีนอาหารเสริม
กิฟฟารีนอาหารเสริม
 
 

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่สามารถดักจับไขมัน

 

ไค โตซาน ผลิตจากสาร ไคติน ซึ่ง มีโครงสร้างคล้ายกับเซลลูโลส จัดเป็นใยอาหารชนิดหนึ่ง ไคโตซาน มีคุณสมบัติในการแลกเปลี่ยนประจุกับสารอื่นได้ รวมถึงมีคุณสมบัติในการก่อเจลเมื่อละลายในกรด กล่าวคือ เมื่อ ไคโตซาน ละลายในกระเพาะอาหารซึ่งมีความเป็นกรดแล้ว จะให้ประจุบวกสูง ประกอบกับการพองตัว มีลักษณะเป็นเจล ที่สามารถดูดจับไขมันซึ่งมีประจุลบ ทำให้ไขมันไม่ถูกย่อย จึงไม่ถูกดูดซึมและถูกขับถ่ายออกไป
ไคโตซาน  ผลิตจากสาร ไคติน ซึ่ง มีโครงสร้างคล้ายกับเซลลูโลส จัดเป็นใยอาหารชนิดหนึ่ง   ไคโตซาน มีคุณสมบัติในการแลกเปลี่ยนประจุกับสารอื่นได้ รวมถึงมีคุณสมบัติในการก่อเจลเมื่อละลายในกรด กล่าวคือ เมื่อ ไคโตซาน ละลายในกระเพาะอาหารซึ่งมีความเป็นกรดแล้ว จะให้ประจุบวกสูง ประกอบกับการพองตัว มีลักษณะเป็นเจล ที่สามารถดูดจับไขมันซึ่งมีประจุลบ ทำให้ไขมันไม่ถูกย่อย จึงไม่ถูกดูดซึมและถูกขับถ่ายออกไป
รวมถึงผู้ที่มีความดันโลหิตสูงจากการที่มีระดับไขมันในเลือดสูง (อ้างอิงที่ 1-4)
• มีงานวิจัยว่า  ไคโตซาน สามารถลดระดับโคเลสเตอรอล และไตรกลีเซอร์ไรด์ในเลือด ได้จริง(อ้างอิงที่ 5, 6)
สรุปคุณสมบัติของโพลีเดกซ์โตส ( Polydextrose )

• เป็นกลุ่มของใยอาหาร มีประโยชน์ในการช่วยจับไขมันจากอาหาร ลดการดูดซึมน้ำตาล ช่วยให้ขับถ่ายสะดวก (อ้างอิงที่ 7)
•  โพลีเดกซ์โตสจะเป็นใยอาหารที่ละลายน้ำได้ เมื่อถูกน้ำจะพองตัวเป็นวุ้น ทำให้ขัดขวางการดูดซึมไขมัน มีประโยชน์ต่อการควบคุมระดับไขมัน (อ้างอิงที่ 7,8)
สรุปคุณสมบัติของผงจากกระบองเพชร  (Opuntia ficus indica)
• ผงจากกระบองเพชร มาจาก กระบองเพชร (Cactus) สายพันธุ์ Opuntia ficus indica ( โอพุนเทีย ไฟคัส อินดิกา ) มีคุณสมบัติ เป็นใยอาหาร 2 ชนิด คือ ใยอาหารประเภทละลายน้ำและไม่ละลายน้ำ มีความสามารถในการจับตัวกับไขมันและสร้างเจลพิเศษ ที่มีคุณสมบัติสูงสามารถป้องกัน การย่อยสลาย และดูดซึมไขมัน ด้วย เอนไซม์ ไลเปส ( Lipase Enzyme )  ได้ เอนไซม์ ไลเปสเป็นเอนไซม์ สำหรับย่อยไขมัน  จะถูกกันไว้ด้วยเจลจากสารสกัดของกระบองเพชร  ทำให้เอนไซม์  ไม่สามารถเข้าถึงตัวไขมันได้ จึงไม่เกิดการย่อยและการดูดซึมไขมัน   ทำให้ไขมันจำนวนหนึ่ง ที่ไม่ถูกดูดซึม จะถูกส่งผ่านและขับถ่ายออก ทางลำไส้ใหญ่  มีงานวิจัยที่ศึกษาในมนุษย์ พบว่า การรับประทานสารสกัดจากกระบองเพชร Opuntia ficus indica  ในปริมาณ  1.6 กรัมต่อ  มื้ออาหาร สามารถลดระดับไขมันในเลือด ชนิด  แอลดีแอล โคเลสเตอรอล ( LDL Cholesterol )   และไตรกลีเซอร์ไรด์  (Triglyceride )  ได้จริง ส่งผลทำให้ความเสี่ยงที่จะเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจลดลง นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยว่า เจล ที่สร้างจากสารสกัดจากกระบองเพชร Opuntia ficus indica สามารถ เคลือบกระเพาะอาหาร และป้องกันแผลในกระเพาะอาหาร จากการเหนี่ยวนำด้วย แอลกอฮอล์ ในสัตว์ทดลองได้ (อ้างอิงที่ 10)
เป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปว่า การปรับเปลี่ยนนิสัยในการบริโภคร่วมกับการออกกำลังกาย เป็นวิธีที่ดีและปลอดภัยที่สุดในการควบคุมน้ำหนัก หรือลดน้ำหนักในระยะยาว แต่วิธีการแบบนี้  มีความยากลำบากในการปฏิบัติให้ได้อย่างสม่ำเสมอ การใช้ยาลดความอ้วนก็จัดว่าเป็นยาอันตรายเนื่องจากยาลดความอ้วนนั้น จัดเป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ซึ่งการใช้ยานั้นต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ ดังนั้นจึงมีทางเลือกให้แก่ผู้บริโภคอีกทางคือผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารกลุ่มที่มีคุณสมบัติในการลดหรือควบคุมน้ำหนัก อย่างปลอดภัย ไม่มีผลต่อจิตประสาท และระบบสมองนั้นมีมากมายหลายชนิด เช่น เพิ่มการเผาผลาญ ของร่างกาย ได้แก่ สารสกัดจากชาเขียว และน้ำมันดอกคำฝอย  (CLA),   ลดการดูดซึมแป้งด้วยกลไกการ block หรือยับยั้งเอนไซม์ที่ใช้ย่อยแป้ง (สารสกัดจากถั่วขาว)  และกลุ่มที่ออกฤทธิ์อยู่เฉพาะในทางเดินอาหารโดยดักจับเอาไขมันในอาหารที่เรา รับประทานเข้าไป  ได้แก่  Chitosan ใยอาหาร และสารสกัดจากกระบองเพชร Opuntia ficus indica นั่นเอง
เนื่องจาก ไคโตซานและสารสกัดจากกระบองเพชร Opuntia ficus indica มีผลต่อการดูดซึมไขมัน จึงไม่ควรรับประทาน พร้อมยาที่แพทย์สั่ง เพราะอาจจะมีผลรบกวนการดูดซึมยาบางชนิดที่จะต้องละลายในไขมัน และไม่ควรรับประทานในผู้ป่วยเบาหวาน เพราะจะทำให้น้ำตาลในเลือดต่ำและเป็นอันตรายได้  กรณีที่มีโรคประจำตัวอื่น ๆ ควรปรึกษาแพทย์ ก่อนรับประทาน

 
กิฟฟารีนอาหารเสริม
กิฟฟารีนอาหารเสริม
กิฟฟารีนอาหารเสริม
 
 

น้ำมันปลา

 

ใน ปัจจุบันเป็นที่ยอมรับกันอย่างแพร่หลายในวงการแพทย์ว่า น้ำมันปลา คือ หนึ่งในอาหารเสริมสุขภาพที่ให้ประโยชน์สูงสุดต่อผู้บริโภค ให้ผลดีมากในการลดไขมันในเลือด และลดไขมันในเลือด และลดระดับไตรกรีเซอไรด์ในเลือด ป้องกันโรคหัวใจ โรคความดันสูง และโรคเบาหวาน
ประโยชน์ที่มีการรับรองทางการแพทย์
- ลดอุบัติการ และอัตราตายของโรคหัวใจขาดเลือด (Coronary  Heart Disease )
- ลดไขมันในเลือดชนิดไตรกลีเซอร์ไรด์ ( Triglyceride )
- ลดความรุนแรงของโรคปวดข้อรูมาตอยด์ ( Rhematoid Arthritis )
- บำรุงสมอง เนื่องจากเซลล์สมอง มีกรดไขมันชนิดนี้มาก จึงช่วยเสริมสร้างเซลล์สมอง
ข้อควรระวัง
ห้ามทานในผู้ที่เป็นโรคที่เลือดออกได้ง่าย เช่น ผู้ป่วยที่ได้รับยาต้านเกร็ดเลือด หรือ แอสไพริน ผู้ที่มีเกร็ดเลือดต่ำ, มีจุดเลือดออกตามตัว, มีเส้นเลือดแตกในสมอง, เส้นเลือดแตกในจอตา จากโรคจอตาเสื่อมระยะสุดท้ายในเบาหวาน, หลังผ่าตัด 2 อาทิตย์แรก  มีความปลอดภัยในระยะยาว ไม่มีการสะสม ไม่มีรายงานโทษจากการทานนาน ๆในคนที่แพ้อาหารทะเล  น้ำมันปลามีความปลอดภัยในระยะยาว ไม่มีการสะสม ไม่มีรายงานโทษจากการทานนาน ๆ เช่นกัน

 

 
กิฟฟารีนอาหารเสริม
กิฟฟารีนอาหารเสริม
กิฟฟารีนอาหารเสริม
 
 

เรื่องน่ารู้ของน้ำมันดอกคำฝอย

 

ประโยชน์ของน้ำมันดอกคำฝอย CLA

1. ช่วยลดการสะสมไขมันส่วนเกินขึ้นมาใหม่ โดยมีกลไกในการทำงานคือ CLA จะไปยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ไลโปโปรตีน ไลเปส ( Lipo-protein Lipase )  ช่วยให้ร่างกายลดการสะสมของไขมันที่ชั้นใต้ผิวหนัง
2. ช่วยเร่งการเผาผลาญไขมันส่วนเกินที่สะสมไว้ในร่างกาย โดยเร่งการทำงานของเอนไซม์ คาร์นิทีน ปาล์มิโตอิล ทรานสเฟอร์เรส (Carnitine Palmitoyl Transferase) ช่วยให้ร่างกายนำเอาไขมันที่สะสมไว้มาเผาผลาญให้เร็วขึ้น
3. มีงานวิจัยในระยะยาวว่า การให้ CLA จะสามารถลดมวลไขมัน (BFM) และควบคุมน้ำหนัก ช่วยในการรักษาน้ำหนักตัวให้คงที่ สามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติ ไม่ต้องอด ปลอดภัย
4. คุณสมบัติในเรื่องการป้องกันมะเร็ง ด้วยกลไกต้านมะเร็งหลายชนิด
5. มีความปลอดภัย แม้จะรับประทานต่อเนื่องเป็นเวลา 1 ปีเต็มในผู้ที่น้ำหนักเกิน

 

 
Advertising Zone    Close

Online: 1 Visits: 84,223 Today: 5 PageView/Month: 273

ด้วยความปราถนาดีจาก "สยามทูเว็บดอทคอม" และเพื่อป้องกันการเปิดเว็บไซต์เพื่อหลอกลวงขายของ โปรดตรวจสอบร้านค้าให้แน่ใจก่อนตัดสินใจซื้อของทุกครั้งนะคะ    อ่านเพิ่มเติม ...